วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

การ Set RAID Group Recovery หรือ Rebuild RAID

การ Set RAID Group Recovery หรือ Rebuild RAID จะทำในกรณีที่มี Hard disk ลูกใดลูกหนึ่งหลุดออกจาก RAID Group ที่ใช้งานปกติ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดมาจาก Hard disk ใน RAID Group นั้นเสียแล้วทำการเปลี่ยนลูกใหม่เข้าไป หรืออาจเกิดจากการ Disconnect โดยเผลอดึง Hard disk ลูกใดลูกออกจาก Drive bay ขณะที่ยังไม่ได้ปิดเครื่อง ซึ่งทำให้เกิด Degraded ขึ้นภายในระบบ โดย System logs จะแสดงผลดังนี้

การที่มี Degraded เกิดขึ้น File ต่างๆในเครื่อง NAS ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้สูญเสียข้อมูลแต่อย่างใด

ทั้งนี้หากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขข้อมูลภายใน File ก็ยังคงสามารถทำได้ แต่สิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วน คือ
1. ทำการสำรองข้อมูลทั้งหมด
2. ต้องรีบเปลี่ยน Hard disk ลูกใหม่ใส่เข้าไปในระบบ และ Recover RAID กลับมาให้ใช้งานเป็นปกติให้เร็วที่สุด

เนื่องจาก เราไม่สามารถทราบได้เลยว่า Hard disk ลูกอื่นๆที่อยู่ใน RAID Group เดียวกันจะเสียเพิ่มหรือไม่ หากเคราะห์ร้ายมี Hard disk ลูกอื่นเสียเพิ่มเกินกว่าที่ RAID Group รองรับได้ ก็มีโอกาสที่จะทำให้สูญเสียข้อมูลทั้งหมดได้

ในการใช้งานจริง เราจำเป็นที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบสถานะการทำงานของ Storage และ Hard disk ใน RAID Group อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าสถานะทุกอย่างยังคงทำงานเป็นปกติ ไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น หรือ หากมีปัญหาเกิดขึ้น จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที

ขั้นตอนการ Set RAID Group Recovery หรือ Rebuild RAID สามารถทำได้ดังนี้
1. เปิดโปรแกรม Storage & Snapshots ขึ้นมาแล้วเลือก Storage/Snapshots ที่ Menu ทางซ้ายมือ จะสังเกตว่า Storage Pool จะมีสถานะเป็น Warning (Degraded) อยู่
2. คลิกเลือกที่ DataVol1 ที่อยู่ภายใต้ Storage Pool
3. คลิก Manage --> RAID Group Recovery (Rebuild)

4. ทำตาม Wizard ที่แนะนำขึ้นมาโดยคลิกเลือกที่ Go To

5. ระบบจะทำการ Rebuild RAID ใหม่ ซึ่งเราสามารถที่จะตรวจสอบสถานะการ Rebuild RAID และ Priority ที่ใช้ในการ Rebuild ได้ซึ่งโดยปกติ Default จะเป็น Medium speed

6. เราสามารถเปลี่ยน Priority Speed ของการ Rebuild RAID ได้จาก Dropdown Priority ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น หากมี User ที่ยังคงเข้ามาใช้งาน NAS เครื่องนี้อยู่ก็ให้ Set เป็น Default หรือ หากไม่มีคนใช้งานงานและอยากให้ Rebuild RAID เป็น Priority หลัก ก็สามารถเปลี่ยนจาก Default เป็น Resync First (High Speed) ได้

7. ในการจัดการเกี่ยวกับ Storage Pool เราไม่สามารถจัดการอย่างอื่นได้ในเวลาเดียวกัน เช่น Add Disk, Migrate หรือ อื่นๆ จนกว่าการ Rebuild RAID จะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับ Spec ของตัวเครื่อง, ขนาดของข้อมูล และ ขนาดของ Hard disk ที่ใช้งานภายใน NAS


8. รอจนกระทั่งการ Rebuild RAID เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งสถานะของ Storage Pool จะเปลี่ยนกลับมาเป็น Ready